บทที่ 10 เกือบหลงเสน่ห์พ่อผู้ร้ายตัวร้าย

บ้านใหม่ของอรวินท์

ณัฐนนท์กลับไปตั้งนานแล้ว แต่จินตหรายังคงทำหน้าบึ้งตึง ปากเล็กๆ ยื่นออกมา จมูกและดวงตาแดงก่ำ นอนขดตัวกลมอยู่บนเตียงราวกับลูกเม่น

อรวินท์ถอนหายใจอย่างจนปัญญา เดินไปหยิบเค้กชิ้นเล็กมาจากในครัว "น้องจิน ดูสิว่านี่คืออะไร?"

เค้กชิ้นเล็กส่งกลิ่นหอมของนมเนยฟุ้งไปทั่ว เป็นของโปรดของจินตหราเลยล่ะ

จินตหราเงยหน้าขึ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มเต็มไปด้วยความน้อยใจ พอเห็นเค้กชิ้นเล็ก ดวงตากลมโตก็เป็นประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่แล้วก็หม่นแสงลงทันที "คุณแม่คะ ป่านนี้พี่ชายคงถึงบ้านแล้วใช่ไหมคะ? หนูคิดถึงพี่จังเลย หนูยังไม่ได้คุยกับพี่ให้หายคิดถึงเลยนะ!"

แม้แต่เค้กของโปรด เธอก็ยังไม่สนใจ

อรวินท์ทำหน้าปวดใจ ดึงลูกสาวเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก ไม่รู้จะปลอบโยนแกอย่างไรดี

กริ๊ง... เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์อันไพเราะดังขึ้น

จินตหราเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของอรวินท์ มือน้อยๆ ปาดน้ำตา แล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา

เป็นสายจากณัฐนนท์!

เธอรีบกดรับสายทันที "พี่ชาย!"

ไม่รู้ว่าณัฐนนท์พูดอะไร ปลายสายได้ยินเพียงเสียงจินตหราที่มุมปากยกยิ้มจนแก้มปริ ใบหน้าขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "โอเคค่ะพี่ชาย พรุ่งนี้หนูก็จะได้เจอพี่แล้ว!"

อรวินท์ถึงกับงง เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?

พอวางสาย จินตหราก็กระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของอรวินท์ราวกับกระต่ายน้อย ร้องบอกอย่างดีใจว่า "คุณแม่คะ พี่ชายชวนหนูไปเที่ยวที่บ้านพรุ่งนี้ค่ะ! ดีใจจังเลย หนูจะได้เจอพี่ชายอีกแล้ว!"

สองมือน้อยประคองใบหน้าของอรวินท์ ใบหน้าจิ้มลิ้มเหมือนซาลาเปาดูจริงจังขึ้นมา "คุณแม่วางใจได้เลยนะคะ พี่ชายจะปกป้องหนูเอง จะไม่ให้ใครรู้เด็ดขาดว่าหนูเป็นลูกรักของคุณแม่!"

อรวินท์มองดูจินตหราที่กระโดดโลดเต้นบนเตียงราวกับเป็นแทรมโพลีน แล้วถอนหายใจเบาๆ

ต้องขอบคุณณัฐนนท์ที่คิดวิธีนี้ออกมาได้ ในที่สุดก็ทำให้จินตหราอารมณ์ดีขึ้นจนได้

ช่างเถอะ เด็กๆ มีความสุขก็พอแล้ว

ด้วยความฉลาดของเด็กสองคนนี้ คงไม่น่าจะมีใครจับได้หรอก

อรวินท์พูดอย่างจำยอม "เอาล่ะ นอนได้แล้วลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นสายนะ"

......

เช้าวันรุ่งขึ้น จินตหรายังทานมื้อเช้าไม่ทันเสร็จ บอดี้การ์ดสองคนที่ติดตามณัฐนนท์ก็มารับแล้ว

จินตหรารีบวางเค้กชิ้นโปรดลงทันที แล้วกระโดดลงจากเก้าอี้ "คุณแม่คะ หนูไปแล้วนะ! บ๊ายบายค่ะแม่!"

ร่างเล็กๆ นุ่มนิ่มวิ่งฉิวราวกับลมพัด อรวินท์รีบเดินตามลงมาข้างล่าง กำชับลูกสาวอีกไม่กี่ประโยคก่อนเธอจะขึ้นรถไป

มองดูรถที่แล่นออกไป อรวินท์ก็ได้แต่ถอนหายใจ

รถแล่นออกจากหมู่บ้าน เพียงครึ่งชั่วโมงก็มาจอดที่หน้าประตู 'คฤหาสน์ของตระกูลจำเริญทรัพย์'

ประตูรั้วค่อยๆ เปิดออก จินตหรากระโดดลงจากรถ ดวงตากลมโตมองซ้ายมองขวาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

จู่ๆ เธอก็ชะงักฝีเท้า ดวงตายิ้มจนโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว "พี่ชาย!"

ณัฐนนท์ในชุดสูทตัวจิ๋วยืนรออยู่ที่หน้าประตู ยืดอกตัวตรงแหน่ว ใบหน้าขาวเนียนเริ่มมีรอยยิ้มเมื่อได้เห็นจินตหรา

จินตหราวิ่งเหยาะๆ เข้าไปกระโจนกอดณัฐนนท์เต็มรัก จนเกือบทำเขาเซถลา

ภาพนี้ทำให้บอดี้การ์ดที่ตามมาข้างหลังอดขำไม่ได้

แม้แต่พ่อบ้านและคนรับใช้ก็พากันอมยิ้ม แม่หนูน้อยคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู ปากหวานช่างเจรจา มิน่าล่ะถึงเข้ากับคุณหนูณัฐนนท์ผู้เก็บตัวได้

ณัฐนนท์ถอยหลังไปก้าวหนึ่งเพื่อทรงตัวให้มั่น

เขาจูงมือจินตหราเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ปากเล็กๆ คอยแนะนำสถานที่ให้เธอฟังตลอดทาง

จินตหราเบิกตากลมโตมองไปตามนิ้วที่เขาชี้อย่างตื่นเต้น ที่แท้พี่ชายก็โตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้นี่เอง บ้านใหญ่โตจัง สวยมากด้วย!

เมื่อเดินเข้ามาในห้องรับแขก จินตหราก็สะดุดตากับคุณทวดวรดี หญิงชราผมสีดอกเลาผู้มีใบหน้าเมตตาอารี นั่งอยู่บนโซฟา ให้ความรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคย

ณัฐนนท์แนะนำเธอว่า "นี่คือคุณทวดครับ"

จินตหรารีบเดินเข้าไปหา ยิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรง แล้วทักทายเสียงหวาน "สวัสดีค่ะคุณทวด หนูชื่อจินตหรา เป็นเพื่อนสนิทของพี่ณัฐค่ะ"

เธอไม่ได้โกหกนะ นอกจากจะเป็นน้องสาวแล้ว เธอยังยกให้ณัฐนนท์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดด้วย!

เสียงเจื้อยแจ้วน่ารักทำให้คุณทวดวรดีตาเป็นประกาย ถูกอกถูกใจรอยยิ้มหวานๆ ของแม่หนูน้อยเข้าเต็มเปา

เด็กหญิงหน้าตาสะสวย ผิวขาวเนียนละเอียด โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นั้น มองแวบแรกดูคล้ายกับดวงตาของณัฐนนท์มากทีเดียว!

ณัฐนนท์เป็นเด็กเก็บตัวมาตั้งแต่เล็ก ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หรือแม้แต่จะพูดคุย

ตอนนี้พาเพื่อนมาเล่นที่บ้านได้ นางจึงดีใจมาก และรู้สึกเอ็นดูจินตหราจากใจจริง

นางรีบวางของในมือ แล้วยื่นมือไปหาจินตหรา "หนูจิน มานี่เร็วลูก มาให้ทวดกอดหน่อยสิ"

จินตหราหันไปมองณัฐนนท์อย่างลังเล

พอเห็นณัฐนนท์พยักหน้าให้ เธอจึงวิ่งเหยาะๆ เข้าไป ซบหน้าลงกับอกของคุณทวดวรดี สัมผัสได้ถึงความรักความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่

ในขณะที่บรรยากาศในห้องรับแขกกำลังชื่นมื่น เสียงทุ้มลึกของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น

"คุณย่าครับ ผมมาแล้ว"

จินตหราชะงักไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของคุณทวดวรดี เห็นเจตน์ในชุดสูทเดินเข้ามา

หล่อจังเลย!

ดวงตาของจินตหราเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้ชายหล่อขนาดนี้

แต่พอคิดได้ว่าสุดหล่อตรงหน้าคือคนใจร้ายที่ทิ้งแม่ของเธอ แววตาที่เป็นประกายก็ดับวูบลงทันที เธอเงยหน้ามองเขาด้วยท่าทางปั้นปึ่งแก้มป่อง

เจตน์เองก็สังเกตเห็นเธอทันที เด็กหญิงตาโต แก้มยุ้ยขาวผ่อง ดูน่ารักน่าชัง ติดตรงที่สายตาที่มองเขาดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่

เจตน์ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้แม่หนูน้อยคนนี้โกรธเคือง

แต่เขากลับรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้อย่างประหลาด ถึงขั้นอยากจะอุ้มเธอขึ้นมากอด

เขาคลายปมคิ้ว มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย "ยัยหนู ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธหรือเปล่า? ทำไมมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ?"

แม้จะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่เสียงทุ้มต่ำของเขากลับแฝงไว้ด้วยอำนาจบารมีที่น่าเกรงขาม

จินตหรากระพริบตาปริบๆ ข่มความอยากที่จะกระโจนเข้าไปกัดเขา แล้วตอบกลับไปอย่างมะนาวไม่มีน้ำว่า "ก็มองเพราะคุณหล่อน่ะสิ ไม่ได้เหรอคะ?"

คำพูดไร้เดียงสาของเด็กน้อย ทำให้บรรยากาศเงียบเชียบในห้องรับแขกกลับมาครึกครื้นขึ้นทันตา

เจตน์ถึงกับคิ้วกระตุก บอกไม่ถูกเลยว่าเธอกำลังชมหรือหลอกด่าเขากันแน่

คุณย่าวรดีหัวเราะชอบใจ กอดจินตหราไว้อีกครั้ง "แม่หนูคนนี้ชื่อจินตหรา เป็นเพื่อนคนแรกที่ตาณัฐชวนมาเที่ยวบ้านเชียวนะ"

คุณย่าวรดีจงใจเน้นย้ำถึงความสำคัญของจินตหราที่มีต่อณัฐนนท์ นางเอ็นดูเด็กคนนี้มากจริงๆ

นางบีบแก้มยุ้ยของจินตหราเบาๆ "น้องจิน นี่คือคุณพ่อของพี่ณัฐจ้ะ"

จินตหราตาโต นึกขึ้นได้ว่าอรวินท์เคยสอนให้เป็นเด็กมีมารยาท เธอจึงเอ่ยทักทายอย่างไม่เต็มใจนัก "สวัสดีค่ะคุณลุงเจตน์"

เจตน์พยักหน้าอย่างพอใจ มองดูณัฐนนท์แวบหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับคุณย่าวรดี "คุณย่าครับ เด็กสองคนนี้ซนจะตาย เดี๋ยวผมพาพวกเขาออกไปเที่ยวข้างนอกดีกว่า"

ณัฐนนท์ได้ยินดังนั้นก็รีบส่ายหน้าทันที "ผมไม่ไป! ผมจะอยู่บ้านกับจิน!"

เจตน์ขมวดคิ้ว เสียงเข้มขึ้น แฝงอำนาจเด็ดขาดแบบห้ามปฏิเสธ "ไม่ได้!"

เมื่อเห็นบรรยากาศระหว่างพ่อลูกเริ่มตึงเครียด คุณย่าวรดีจึงต้องออกหน้ามาไกล่เกลี่ย "ตาณัฐเป็นเด็กดีนะลูก ไปเที่ยวกับคุณพ่อเถอะนะ"

แม้นางจะไม่อยากให้หลานห่างตัว แต่ก็อยากให้ณัฐนนท์ได้ใช้เวลาร่วมกับเจตน์ให้มากขึ้น

จินตหราเองก็กระพริบตาส่งสัญญาณให้เขา เห็นแก่หน้าจินตหรา เขาจึงยอมเลิกต่อต้าน "ทราบแล้วครับคุณทวด"

จินตหราจับมือณัฐนนท์ไว้อย่างเงียบๆ พี่ชายสู้คนใจร้ายไม่ได้หรอก! วันนี้เธอจะต้องปกป้องพี่ชายให้ได้!

เจตน์มองดูมือเล็กๆ ของเด็กทั้งสองที่เกาะกุมกันไว้ ไม่รู้ทำไม หัวใจของเขากระตุกวูบ มีความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก

สวนสัตว์

พอดีตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนในสวนสัตว์จึงพลุกพล่านมาก

เพราะคนเยอะเกินไป เจตน์จึงต้องจูงมือเด็กไว้คนละข้าง คิ้วขมวดมุ่น สีหน้าเคร่งเครียด แต่พอเห็นเด็กทั้งสองมีความสุข คิ้วที่ขมวดไว้ก็ค่อยๆ คลายลง

เขาย่อตัวลง แล้วอุ้มเด็กทั้งสองขึ้นมา

จินตหราดีดดิ้นเตะขาไปมา "หนูไม่อยากให้คุณอุ้ม ปล่อยหนูลงนะ!"

ณัฐนนท์เองก็เม้มปาก ดูไม่ค่อยพอใจนัก

เจตน์ข่มอารมณ์อธิบายอย่างอดทน "ตรงทางเข้าคนเยอะมาก เดี๋ยวพอเข้าไปข้างในแล้วฉันจะปล่อยพวกเธอลง"

จินตหรากระพริบตากลมโต แก้มป่องด้วยความขัดใจ เชอะ แกล้งทำเป็นหวังดี!

แม้ในใจจะคิดแบบนั้น แต่พอถูกเจตน์อุ้มไว้ในอ้อมแขน เธอกลับรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

โดยเฉพาะเมื่อเห็นเม็ดเหงื่อที่ไหลลงมาตามขมับของเจตน์เพราะต้องอุ้มพวกเธอทั้งสองคน เธอก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้

เชอะ! แผนสำออยชัดๆ!

จินตหราเบะปาก สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ในใจพร่ำบอกตัวเองถึงความเลวร้ายของเจตน์ เธอจะไม่ยอมหลงกลเด็ดขาด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป